วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รักที่ยิ่งใหญ่ จากหัวใจที่บริสุทธิ์




โดย  นางฮัสนะห์   โอลำผล       
พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ  รพสต.หัวเขา   อ.สิงหนคร จ.สงขลา

 
           ป้าไลกับน้องกั้ง  ป้าไลหญิง  อายุ 51 ปี   รูปร่างผอมบาง เนื้อเหลว หนังเหี่ยวย่น  เมื่ออดีตอาศัยอยู่กับสามี ทำงานเรือน้ำมันบ้านฐานะยากจน มีลูก  2 คน ลูกสาวคนแรก มีครอบครัวย้ายไปอยู่กับสามี  จังหวัดกระบี่  ส่วนลูกชายคนที่ 2  (กั้ง) พิการเป็นโรคลมชัก พิการสมองและแขนขาลีบเดินไม่เป็นปรกติ  หลังจากนั้นสามีก็มีภรรยาใหม่ โดยทิ้งให้แม่ลูก อยู่กันตามลำพัง   ป้าไลมีอาชีพขายข้าวเหนียว โดยทูนถาดข้าวเหนียวบนศรีษะเดินขายทุกวัน ขายได้บ้าง หมดบ้าง เหลือบ้าง

          วันหนึ่งป้าไลเริ่มป่วยลงโดยมีโรคภัยรุมเร้า  ทั้ง เบาหวาน  ความดัน หัวใจ สุขภาพ เริ่มอ่อนแอลงทุกที ทุกที   ส่วนกั้งผู้เป็นลูกชายก็ยังคงต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลา  แต่ แพทย์ต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมอ. รักษาเฉพาะทาง  ด้วยระยะทางในการไปรักษาตัว รวมทั้ง สภาพร่างกายของกั้งที่ไม่เป็นปรกติเดินเซไปเซมา  สมองสั่งการช้า กระตุกบ้างเป็นทีๆ        ส่วนป้าไลก็สภาพร่างกายไม่ค่อยอำนวยมากนัก  แต่ด้วยความรักที่ป้าไลมีต่อกั้ง ป้าไลกัดฟันสู้เพื่อรักษากั้งผู้เป็นลูกชายไปตรวจตามนัดทุกครั้ง

                    รักใดเล่าเท่ารักแท้ที่แม่รัก         ผูกสมัครรักมั่นมิหวั่นไหว

          ห่วงใดเล่าเท่าห่วงดั่งดวงใจ                           ที่แม่ให้กับลูกอยู่ทุกครา

          ยามลูกขื่นแม่ข่มตรมหลายเท่า                        ยามลูกเศร้าแม่โศกวิโยคกว่า

          ยามลูกหายแม่ห่วงคอยดวงตา                        ยามลูกมาแม่หมด ลดห่วงใย

           ขณะทำงานอยู่  รพ.สต. มีอสม.คนหนึ่งโทรมา  กริ้งๆๆ  ช่วยที  ช่วยที  ช่วยมาดูผู้ป่วยรีบมาเลยน่ะ   เมื่อวางสายจาก อสม. จึงรีบสตาร์ทรถออกไปดูทันที  พร้อมกระเป๋าเยี่ยมบ้านคู่ใจ   กริ้งๆๆ  มีอีกสายโทรเข้ามา ขณะไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วย  ในใจอุทานขึ้นมา อุ๊ย ! สาธารณสุขอำเภอโทรมา  โทรมาทำไมเนี๊ยะ  มีอะไรหรือเปล่าน๊า??? ”     สวัสดีค่ะ   ช่วยไปดูผู้ป่วยหมู่ที่ 3 มีคนโทรมาแจ้งว่า ผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสในบัญชีรายชื่อของเรา มีอาการอยู่ที่บ้าน   ค่ะ ค่ะ ค่ะ กำลังเดินทางไปดูอยู่ค่ะ  ขอบคุณค่ะ   เมื่อถึงบ้านป้าไล  พบว่า  ป้าไลไม่รู้สึกตัว  นอนตรงประตูบ้าน  มีผ้าถุงกองอยู่ข้างๆประมาณ  10  ผืน  มีกลิ่นปัสสาวะเหม็น    ฉ๋องทั่วบ้าน  สภาพบ้านเป็นสังกะสีขึ้นสนิม ในบ้านรกรุงรัง จาน ชาม แก้วน้ำ วางเกลื่อนกลาดทั่วบ้าน   ข้างป้าไลที่นอนไม่รู้สึกตัว   กั้งยืนละหมาดอยู่  นุ่งผ้าถุงเก่าๆ ขึ้นรา  หมวกใบเก่าๆเป็นจุดด่างๆครอบศรีษะ   โดยกั้งยืนละหมาดอยู่ข้างๆด้วยความกระวนกระวาย  เมื่อเข้าไปดูสภาพป้าไลอาการไม่สู้ดีนัก  จึงบอกให้กั้งว่าจะพาป้าไลไปโรงพยาบาล   ฉันรีบโทรรถของเทศบาลที่คอยบริการประชาชนให้มารับป้าไลโดยด่วน    แต่ โชคช่างไม่เข้าข้าง รถของเทศบาลไม่ว่าง  ป้าไลไม่รู้สึกตัว รถก็ไม่มี  จึงได้ คิด  คิด  คิด  นึกได้ว่ามีผู้ที่ช่วยเราได้ ฉันรีบโทรหาท่านสาธารณสุขอำเภอ    กริ้งๆๆ  ท่านค่ะ  ฉันแจ้งอาการผู้ป่วยคร่าวๆ  และรีบบอกปัญหา  ท่านสาธารณสุขอำเภอ ว่าไม่เป็นไรจะช่วยประสานรถให้อีกทาง   ขอบคุณค่ะ   5 นาที ไม่ถึง     รถก็ได้มาถึงหน้าปากซอยบ้านของป้าไล  ทุกคนที่อยู่ข้างๆบ้านช่วยกันย้ายร่างของป้าไลขึ้นบนรถ  ขณะเดียวกันที่ยกร่างของป้าไล  หันไปอีกทีก็เห็นกั้งตกใจ  ชักจนหมดสติ  ทันใดนั้นจึงพา 2 แม่ลูกขึ้นรถไปโรงพยาบาล ทันที    ห้องฉุกเฉิน  2 แม่ลูก  ได้รับการช่วยเหลือจนแพทย์ ให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการก่อน  ขณะตามผู้ป่วยไปโรงพยาบาลนั้นพยายามติดต่อลูกสาว  ลูกสาวก็รับทราบ  เมื่อ 2 แม่ลูก เข้านอนที่  ตึกใน ป้าไลเริ่มรู้สึกตัว  ป้าไลมีอาการกังวล กระสับกระส่าย  เมื่อถามถึง ป้าไลพูดด้วยเสียงเครือในลำคอและชี้ที่เอวว่า เงิน เงิน เงิน เหน็บไว้ จึงบอกป้าไลไปว่า ฝากพยาบาลไว้แล้ว ไม่ต้องกังวลค่ะ  ตอนนี้นอนพักเลย  ปลอดภัยแล้ว  อยู่โรงพยาบาล  และแจ้งพยาบาลไปว่าหากมีอะไรโทรแจ้งมาได้เลย   เช้าวันต่อมา      ตึกที่กั้งนอนรัษา  กั้งมีท่าทางกระสับกระส่าย  ดูลุกลี้ลุกลน กระวนกระวายจึงเข้าไปถามกั้งว่า     กั้งเป็นอะไร มีอะไรหรือเปล่า   กั้งตอบว่า     อยากไปหาแม่  แม่อยู่ไหน พาไปได้มั๊ย  กั้งเดินไม่ค่อยไหวจึงเอารถเข็ญพากั้งไปหาแม่   ขณะพากั้งไป  กั้งยิ้มด้วยสีหน้าที่สดชื่นขึ้น  ดูมีความสุขที่ได้ไปยังอ้อมอกแม่  เมื่อถึง กั้งเรียกแม่ และลูบหน้า  ลูบแขน  ลูบขา ถามแม่ตลอดเวลาว่า   เจ็บมั๊ย เจ็บตรงไหน หิวมั๊ย    พร้อมทั้งใบหน้าอันเต็มไปด้วยความห่วงใย  กับน้ำตาที่คลอเข้าตาทั้ง 2 ข้าง

แม่ ยังมีลูกนี้ ที่เป็นห่วง       และไม่ลวง หลอกให้ ใจขมขื่น

อยากปลอบปลุก ทุกข์ช้ำ ที่กล้ำกลืน  น้ำตารื้น ซับให้ อยู่ใกล้ชิด

แม่ ยังมีลูกนี้ ที่เป็นห่วง          ในทุกช่วงเวลา ที่ล้าจิต

มิเคยห่าง ร้างใจ ไปสักนิด        ยังเฝ้า ติดตามดู รับรู้ความ

แม่ ยังมีลูกนี้ ที่เป็นห่วง          รักใหญ่หลวง กำลัง โลกทั้งสาม

แม้ไม่อาจ อยู่ใกล้ไ ด้ทุกยาม     และไต่ถาม เหนื่อยไหม ในวันนี้

อยากบอกแม่ ให้รู้หนู รักแม่          เป็นรักแท้ แม่เชื้อ เหนือเกศี

ใครไม่เห็น เนื้อแท้ แม่คนดี  แม่ยังมีลูก เห็นเป็นนางฟ้า

          3 –  4  วันผ่านไป โรงพยาบาลโทรมา กริ้งๆๆ  โทรมาแจ้งผู้ป่วยทั้ง 2 คน หายดีแล้วค่ะ เมื่อวางสายรีบประสานรถไปรับ 2 แม่ลูกกลับบ้าน  เมื่อถึงวันที่แพทย์นัด ทางเราก็พา  2  แม่ลูกไปพบแพทย์ ตรวจจนเสร็จ และนำกลับส่งถึงบ้าน

           วันหนึ่ง หลังจากที่กลับจากโรงพยาบาล  ซึ่งแพทย์นัดกั้งไปตรวจ   ขณะอยู่บนรถ ซื้อขนมและน้ำให้กั้งกิน  กั้งกินด้วยความเอร็ดอร่อย  กั้งเอ่ยขึ้นมาว่า  ขนมนี้อร่อยมาก กินเพลิน ใกล้จะหมดแล้ว เก็บให้แม่กินด้วยดีกว่า  ลืมตัวกินจนเกือบหมด  ขนมอร่อยๆอย่างนี้แม่ต้องชอบแน่เลย เสียดาย เหลือนิดเดียวแล้ว ไม่น่าเลย   เมื่อถึงบ้านกั้งเห็นแม่นอนเหงื่อแตก นอนอยู่บนพื้น นอนกางขานุ่งผ้าผืนเดียว  ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว  กั้งทนดูไม่ได้รีบไปที่พัดลม  จะเปิดพัดลมให้แม่   แต่กั้งต้องรู้สึกเสียใจที่พัดลมเปิดไม่ได้ ใบพัดมันขึ้นสนิมจนมันหักใช้การไม่ได้  กั้งได้แต่ลูบพัดลม  นำใบพัดที่หักมาต่อตรงคอพัดลม ไม่ยอมลุกไปไหน ลูบไปลูบมาพยายามทำเพื่อแม่ที่นอนร้อน เห็นดังนั้น  ฉันทนดูไม่ได้ขนาดกั้งที่มีปัญหาพิการทางสมองยังคิดได้ในความรักที่ต้องตอบแทนพระคุณแม่  ฉันรีบไปติดต่อเรื่องพัดลม  นึกขึ้นได้ว่ามีบ้านผู้ใจบุญที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์  เมื่อไปพูดคุยปัญหาที่พบ  ท่านผู้ใจบุญได้บริจาคพัดลม 1 ตัว  ให้เพื่อดับความร้อนของป้าไล   เมื่อถึงบ้านกั้ง  มีชาวบ้านชลมุนหน้าบ้านกั้ง  ส่วนที่พบคือกั้งชักอีกครั้ง ขณะเอาน้ำละหมาด เพราะต้องตักน้ำจากโอ่งใบใหญ่  กั้งพยายามตักจนล้มและชักหัวแตกเลือดไหลเต็มพื้น   ฉันรีบโทรรถมารับไปโรงพยาบาล  เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาล

            เรื่องป้าไล  ทางเราพยายามติดต่อประสานเพื่อเส้นทางชีวิตของป้าไลที่ต้องมีคนดูแล      จึงประสานทางสะบ้าย้อย  เจ้าหน้าที่แจ้งว่า รับได้เฉพาะผู้หญิงไม่รับผู้ชาย  ฉันพยายามติดต่อประสานที่ต่างๆ ก็ไม่เป็นผล

            เช้าวันหนึ่ง  มีรถรับจ้างมายื่นกระดาษแข็งใบเล็กๆเป็นรอยฉีก  ในกระดาษนั้นมีความว่า  หมอ มาหาป้าไลหน่อย  ป้าไลอาการหนักแล้วมาเลยน่ะ  เมื่อไปถึงบ้าน ป้าไลก็ได้จากเราไปแล้ว

            ก่อนจากไปของป้าไลคืนนั้นเวลา  22.00  น. ( 4 ทุ่ม)  ป้าไลบอกกั้งว่าอยากน้ำเย็นๆ กั้งได้ยินเช่นนั้น รีบเดินไปซื้อเดินหลงไปถึงหมู่ 2 ( ระยะทาง 800 เมตร) มีผู้พบเห็นพามาส่งบ้าน และซื้อน้ำมาให้ 1 ถุง และเมื่อเวลา 02.00 น. ( ตี 2 ) แม่บอกกั้งอีกว่าอยากน้ำเย็นๆ กั้งก็ออกไปเดินไปเรื่อยๆหลงไปถึงหมู่ 6 ( ระยะทาง 2  กิโลเมตร ) สภาพกั้งที่เดินหาน้ำเย็นให้แม่ เดินผ้าถุงหลุดลุ่ย มีคนถามว่าไปไหน   กั้งตอบว่าไปหาน้ำให้แม่แม่หิว  ชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นก็สงสารพามาส่งถึงบ้าน  ตื่นเช้ามากั้งก็นอนอยู่ข้างๆแม่นอนตรงปลายเท้า โดยไม่รู้ตัวเลยว่า แม่ที่นอนอยู่ข้างๆได้จากกั้งไปแล้ว  เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปได้จัดการเรื่องป้าไลเสร็จสิ้น ได้ส่งข่าวไปยังพ่อของกั้ง  พ่อของกั้งซึ่งอยู่กระบี่กับแม่เลี้ยง  และพูดคุยเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาของป้าไลและกั้ง  พ่อของกั้งจึงมารับกั้งไปดูแลต่อไป  กั้งมีความสุขจนทุกวันนี้

ผลบุญ ที่ทำไว้ กับผู้บุพการี ร่วมกับ ชีวิตที่กำลัง จะโรยรา

ได้งอกเงย มีความสุข อีกครั้งอย่างนิรันดร์




 


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น